วิธีเรียนภาษาอังกฤษ
TABLE OF CONTENTS
การเรียนภาษาอังกฤษเปิดโอกาสที่น่าทึ่ง — งานที่ดีกว่า, การเดินทางที่ง่ายขึ้น, และการเข้าถึงเนื้อหาออนไลน์มากมายกว่าเดิม ขณะนี้มีผู้คนกว่าพันล้านคนกำลังเรียนภาษาอังกฤษ ดังนั้นคุณไม่ได้อยู่คนเดียวแน่นอน
แต่ปัญหาคือ: มีแอป, หลักสูตร, และวิธีการมากมายเกินไป มันทำให้สับสน คุณจะเริ่มต้นที่ไหนกัน?
คู่มือนี้จะแสดงให้คุณเห็นว่า อะไรที่ได้ผลจริง และ วิธีเริ่มต้นวันนี้ — แม้ว่าคุณจะยุ่ง, ขี้อาย, หรือเคยลองแล้วล้มเลิกมาก่อน
ขั้นตอนที่ 1: ฟังและอ่านมากๆ (เริ่มจากการรับข้อมูล)

กฎที่สำคัญที่สุดในการเรียนภาษาอังกฤษ: ล้อมรอบตัวคุณด้วยภาษาอังกฤษที่คุณเข้าใจได้ส่วนใหญ่
ลองคิดถึงเด็กทารก พวกเขาไม่ได้เริ่มพูดทันที พวกเขาฟังเป็นเวลาหลายเดือน จากนั้นค่อยๆ คำพูดก็ออกมาเองตามธรรมชาติ
คุณจำเป็นต้องทำแบบเดียวกัน
วิธีง่ายๆ ในการรับข้อมูลภาษาอังกฤษ:
สำหรับผู้เริ่มต้น:
- ดูวิดีโอ YouTube ง่ายๆ พร้อมคำบรรยาย
- ฟัง “BBC Learning English” (ซีรีส์ 6 Minute English)
- อ่านหนังสือเด็กหรือหนังสืออ่านง่าย
- ดูรายการเช่น Peppa Pig พร้อมคำบรรยาย
หลังจากไม่กี่เดือน:
- ดูรายการที่คุณชอบบน Netflix (พร้อมคำบรรยายภาษาอังกฤษ)
- ฟังพอดแคสต์เกี่ยวกับหัวข้อที่คุณชอบ
- อ่านบทความข่าวง่ายๆ
- ติดตามผู้สร้างเนื้อหาภาษาอังกฤษบน Instagram หรือ TikTok
กุญแจสำคัญ: เลือกเนื้อหาที่คุณชอบจริงๆ ถ้าคุณชอบทำอาหาร ดูวิดีโอทำอาหารเป็นภาษาอังกฤษ ถ้าคุณชอบกีฬา ดูเนื้อหากีฬาเป็นภาษาอังกฤษ
อย่ารู้สึกผิดที่ดูทีวีหรือฟังเพลง นั่นคือการเรียนรู้จริงๆ ที่เกิดขึ้น สมองของคุณกำลังดูดซับไวยากรณ์และคำศัพท์โดยอัตโนมัติ — แม้ว่าคุณจะไม่สังเกตเห็นก็ตาม
ขั้นตอนที่ 2: เริ่มพูดและเขียน (แม้ว่าคุณจะกลัว)

หลังจากที่คุณได้ฟังและอ่านมาสักพัก คุณจะต้องการเริ่มใช้ภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง
คนส่วนใหญ่คิดว่า: “ฉันจะรอจนกว่าฉันจะเก่งขึ้นก่อนที่จะพูด.”
ผิดพลาดใหญ่หลวง. คุณจะเก่งขึ้นจากการพูด ไม่ใช่ก่อนที่จะพูด
วิธีฝึกการพูด:
ถ้าคุณขี้อาย:
- ใช้ iTalki — จองครูส่วนตัวในราคา $5-10 ต่อชั่วโมง
- ลอง HelloTalk — แอปฟรีสำหรับแชทกับเจ้าของภาษา
- ฝึก shadowing: ฟังประโยคแล้วพูดตามทันที
การ shadowing นั้นยอดเยี่ยมสำหรับการออกเสียง คุณจะเห็นการปรับปรุงในเวลาเพียงไม่กี่วัน
การฝึกพูดง่ายๆ (วันละ 10 นาที):
- เลือกคลิปวิดีโอสั้น (1-2 นาที)
- ฟังมันหนึ่งครั้ง
- หยุดหลังแต่ละประโยคแล้วพูดตาม
- ทำเช่นนี้ 5 ครั้ง
- ลองพูดทั้งหมดโดยไม่หยุด
วิธีฝึกการเขียน:
- เขียนไดอารี่แบบง่ายๆ ในภาษาอังกฤษ (แม้เพียง 3 ประโยค)
- เขียนคอมเมนต์บน YouTube หรือ Reddit ในภาษาอังกฤษ
- ใช้ LangCorrect — คุณเขียนบางสิ่ง เจ้าของภาษาจะแก้ไขให้ฟรี
จำไว้: แม้การฝึกเล็กๆ น้อยๆ ก็มีค่า การเขียน 3 ประโยคต่อวันดีกว่าไม่เขียนอะไรเลย
ขั้นตอนที่ 3: เรียนรู้คำศัพท์ที่ถูกต้อง (ไม่ใช่คำสุ่ม)

ข่าวดีคือ: คุณต้องการเพียงประมาณ 2,000 คำทั่วไปเพื่อเข้าใจ 90% ของภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน
คุณไม่จำเป็นต้องมี 10,000 คำเพื่อเริ่มพูด เริ่มต้นด้วยคำที่มีประโยชน์ที่สุด
เครื่องมือที่ดีที่สุดสำหรับการเรียนรู้คำศัพท์:
- Anki — แอปแฟลชการ์ดฟรีที่ช่วยให้คุณจำ
- Memrise — ทำให้การเรียนรู้สนุกเหมือนเกม
- Quizlet — ใช้ง่าย มีรายการคำมากมาย
แอปเหล่านี้ใช้ “spaced repetition” — พวกเขาจะแสดงคำให้คุณก่อนที่คุณจะลืม มันเป็นวิธีที่ฉลาดที่สุดในการจำ
เรียนรู้คำในวลี ไม่ใช่แค่คำเดียว
❌ อย่าเรียนแค่: “run” = เคลื่อนที่เร็ว
✅ เรียนรู้ในวลี:
- “run out of time”
- “run a business”
- “run into a friend”
นี่คือวิธีที่เจ้าของภาษาจริงๆ ใช้คำ — ในการผสมผสานที่เป็นธรรมชาติ
เป้าหมายคำศัพท์:
- 500 คำ: คุณสามารถเอาตัวรอดในสถานการณ์พื้นฐาน
- 1,000 คำ: คุณสามารถสนทนาอย่างง่ายๆ ได้
- 2,000 คำ: คุณสามารถพูดคุยเกี่ยวกับชีวิตประจำวันได้อย่างง่ายดาย
ขั้นตอนที่ 4: รับข้อเสนอแนะ (เพื่อที่คุณจะไม่ทำผิดพลาดซ้ำๆ)
ลองนึกภาพการเรียนทำอาหารแต่ไม่เคยชิมอาหารของคุณ คุณจะไม่มีวันพัฒนาขึ้นใช่ไหม?
เช่นเดียวกับภาษาอังกฤษ คุณต้องการข้อเสนอแนะ เพื่อรู้ว่าต้องแก้ไขอะไร
ที่ที่จะได้รับข้อเสนอแนะ:
สำหรับการเขียน:
- Grammarly — แสดงข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์ทันที
- LangCorrect — คนจริงๆ แก้ไขการเขียนของคุณฟรี
สำหรับการพูด:
- ขอให้คู่สนทนาหรือครูของคุณแก้ไขให้
- บันทึกเสียงตัวเองและฟัง — คุณจะจับข้อผิดพลาดของตัวเองได้
- เปรียบเทียบการเลียนแบบเสียงของคุณกับผู้พูดต้นฉบับ
การเปลี่ยนแปลงทัศนคติที่สำคัญ:
ความผิดพลาดเป็นสิ่งที่ดี ทุกความผิดพลาดที่คุณทำช่วยให้คุณเรียนรู้ เจ้าของภาษาก็ทำผิดพลาดเช่นกัน อย่ากลัว
ถ้าคุณไม่ทำผิดพลาด คุณก็ไม่ได้เรียนรู้
ขั้นตอนที่ 5: เรียนทุกวัน (แม้เพียง 10 นาที)
นี่คือความจริง: คนส่วนใหญ่ล้มเหลวไม่ใช่เพราะภาษาอังกฤษยาก แต่เพราะพวกเขาล้มเลิก
ความลับ? การฝึกฝนเล็กๆ ทุกวันชนะการเรียนครั้งใหญ่เป็นครั้งคราว
10 นาทีทุกวันดีกว่า 3 ชั่วโมงสัปดาห์ละครั้ง
ทำให้ภาษาอังกฤษเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของคุณ:
เช้า:
- เปลี่ยนโทรศัพท์ของคุณเป็นภาษาอังกฤษ
- ทบทวนบัตรคำศัพท์ 10 ใบขณะทานอาหารเช้า
- อ่านพาดหัวข่าวภาษาอังกฤษหนึ่งหัวข้อ
ระหว่างวัน:
- ฟังพอดแคสต์ขณะเดินทาง
- ดูวิดีโอสั้นๆ ระหว่างพักเที่ยง
เย็น:
- ดูรายการทีวีภาษาอังกฤษ 20 นาที
- เขียนประโยคเกี่ยวกับวันของคุณ 3 ประโยค
- อ่านหนังสือง่ายๆ หนึ่งหน้า
เคล็ดลับ “การซ้อนนิสัย”:
เชื่อมโยงภาษาอังกฤษกับสิ่งที่คุณทำอยู่แล้ว:
- หลังแปรงฟัน → ทบทวนคำ 5 คำ
- ขณะทำกาแฟ → ดูวิดีโอ 5 นาที
- ก่อนนอน → อ่านหนึ่งหน้า
เริ่มต้นเล็กๆ แม้เพียง 5 นาทีก็นับว่าได้ เป้าหมายคือไม่ข้ามวันไหนเลย
📅 หกเดือนแรกของคุณ: ควรทำอะไร
เดือนที่ 1-2: สร้างนิสัย
- 20 นาทีต่อวัน: ดูวิดีโอหรืออ่าน (พร้อมคำบรรยาย)
- 10 นาทีต่อวัน: ทบทวนแฟลชการ์ด
- เป้าหมาย: ทำความคุ้นเคยกับการฟังและอ่านภาษาอังกฤษ
เดือนที่ 3-4: เริ่มพูด
- ทำต่อไป: 20 นาทีของการรับข้อมูลต่อวัน
- เพิ่ม: ฝึกการเลียนเสียง 10 นาที
- เพิ่ม: สนทนาหนึ่งครั้งต่อสัปดาห์ (กับคู่ภาษาหรือครู)
- เป้าหมาย: พูดประโยคง่ายๆ โดยไม่กลัว
เดือนที่ 5-6: สร้างความมั่นใจ
- ทำต่อไป: การรับข้อมูล + ฝึกพูด
- เพิ่ม: เขียน 5 ประโยคต่อวัน
- เพิ่ม: สนทนา 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์
- เป้าหมาย: สนทนา 5-10 นาทีเกี่ยวกับหัวข้อที่คุ้นเคย
หลังจากฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอเป็นเวลา 6 เดือน คุณจะประหลาดใจว่าคุณเข้าใจและพูดได้มากแค่ไหน
❌ ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยง
อย่าทำสิ่งนี้:
- ❌ ศึกษาเฉพาะกฎไวยากรณ์โดยไม่ฝึกฝน
- ❌ รอจนกว่าคุณจะ “สมบูรณ์แบบ” ก่อนพูด
- ❌ ศึกษา 3 ชั่วโมงในวันหนึ่ง แล้วไม่ทำอะไรเลยในสัปดาห์นั้น
- ❌ ใช้เฉพาะตำราเรียน (ใช้เนื้อหาภาษาอังกฤษจริงด้วย)
- ❌ กลัวการทำผิดพลาด
- ❌ พยายามแปลทุกอย่างในหัว
ทำสิ่งนี้แทน:
- ✅ ผสมการศึกษาไวยากรณ์กับการฝึกฝนจริง
- ✅ เริ่มพูดตั้งแต่วันแรก (แม้ว่าจะไม่ดี)
- ✅ ฝึกฝนเล็กน้อยทุกวัน
- ✅ ดูรายการ อ่านบทความ สนทนา
- ✅ ทำผิดพลาดมากมายและเรียนรู้จากมัน
- ✅ พยายามคิดเป็นภาษาอังกฤษโดยตรง
🛠️ เครื่องมือที่จำเป็น (ทั้งหมดที่คุณต้องการจริงๆ)
ทรัพยากรฟรี:
- YouTube — เนื้อหาที่ไม่จำกัด
- Anki — แอปแฟลชการ์ดที่ดีที่สุด
- HelloTalk — พูดคุยกับเจ้าของภาษา
- BBC Learning English — บทเรียนที่ยอดเยี่ยม
- LangCorrect — การแก้ไขการเขียนฟรี
คุ้มค่าที่จะจ่าย:
- iTalki ($5-10/ชั่วโมง) — บทเรียนภาษาอังกฤษส่วนตัว
- Netflix — ดูรายการเพื่อการซึมซับ
- Grammarly — ช่วยในการเขียน
คุณไม่จำเป็นต้องมีคอร์สที่แพง เครื่องมือที่ง่ายเหล่านี้เพียงพอที่จะทำให้คุณพูดได้คล่อง
💪 เมื่อคุณรู้สึกติดขัด
ปัญหา: “ฉันเข้าใจภาษาอังกฤษแต่พูดไม่ได้”
- วิธีแก้ไข: บังคับตัวเองให้พูดมากขึ้น เข้าร่วมกลุ่มสนทนา พูดแม้จะยาก
ปัญหา: “ฉันลืมคำศัพท์ทันที”
- วิธีแก้ไข: ใช้คำศัพท์ใหม่ทันทีในประโยค เขียนด้วยคำเหล่านั้น พูดออกเสียง
ปัญหา: “ฉันไม่เข้าใจภาษาอังกฤษที่พูดเร็ว”
- วิธีแก้ไข: ฝึกกับเนื้อหาที่เร็วขึ้นทีละน้อย ลองดูวิดีโอที่ความเร็ว 1.25x
ปัญหา: “ฉันทำผิดซ้ำๆ”
- วิธีแก้ไข: รับข้อเสนอแนะจากครูอย่างสม่ำเสมอ บันทึกเสียงตัวเองพูด
ทุกคนมีช่วงที่ติดขัดเป็นเรื่องปกติ แค่ฝึกฝนต่อไป
🎯 วิธีรู้ว่าคุณกำลังพัฒนา
หลังจาก 1 เดือน:
- คุณจำคำศัพท์ได้มากขึ้นเมื่อฟัง
- การอ่านรู้สึกง่ายขึ้นเล็กน้อย
หลังจาก 3 เดือน:
- คุณสามารถพูดประโยคง่ายๆ ได้โดยไม่ต้องแปลก่อน
- คุณเข้าใจแนวคิดหลักของวิดีโอ
หลังจาก 6 เดือน:
- คุณสามารถสนทนาสั้นๆ ได้
- คุณจับข้อผิดพลาดของตัวเองได้บ้าง
- เนื้อหาที่เคยเป็นไปไม่ได้ตอนนี้มีเหตุผล
สัญญาณว่าคุณพัฒนาจริงๆ:
- คุณเริ่มคิดคำบางคำเป็นภาษาอังกฤษ
- คุณเข้าใจมุกตลกบางครั้ง
- คุณสามารถอธิบายแนวคิดง่ายๆ ได้โดยไม่ต้องใช้พจนานุกรม
- คุณรู้สึกกลัวที่จะพูดน้อยลง
🌟 เรื่องราวความสำเร็จจริง
Maria จาก Brazil (เรียนรู้ใน 18 เดือน): “ฉันดู Friends ซ้ำแล้วซ้ำอีก เริ่มด้วยซับไตเติ้ลภาษาของฉัน จากนั้นซับไตเติ้ลภาษาอังกฤษ แล้วไม่มีซับไตเติ้ลเลย นอกจากนี้ฉันเรียน iTalki สัปดาห์ละสองครั้ง ตอนนี้ฉันทำงานให้กับบริษัทอเมริกันจากที่บ้าน”
Kenji จาก Japan (คล่องใน 8 เดือน): “ฉันหยุดแปลในหัว ฉันเริ่มคิดเป็นภาษาอังกฤษ — แม้กระทั่งพูดกับตัวเองเป็นภาษาอังกฤษ นั่นคือเมื่อทุกอย่างคลิก”
Fatima จาก Egypt (เรียนรู้ใน 1 ปี): “ฉันเข้าร่วมเซิร์ฟเวอร์ Discord เกี่ยวกับการเล่นเกมและการทำอาหารเป็นภาษาอังกฤษ การสนทนาจริงกับคนจริงทำให้มันสนุกและเป็นธรรมชาติ”
รูปแบบ: พวกเขาทั้งหมดรวมการฟัง/การอ่านจำนวนมากกับการพูด/การเขียนอย่างสม่ำเสมอ และพวกเขาไม่ล้มเลิก
✨ ก้าวแรกของคุณ (ทำสิ่งนี้วันนี้)
อย่าเพียงแค่อ่านแล้วไม่ทำอะไร เลือกทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งตอนนี้:
- ดาวน์โหลด Anki และสร้างแฟลชการ์ด 10 ใบ
- ดูวิดีโอ YouTube ภาษาอังกฤษ 10 นาที
- เขียนประโยคภาษาอังกฤษ 5 ประโยคเกี่ยวกับวันของคุณ
- เปลี่ยนภาษาของโทรศัพท์เป็นภาษาอังกฤษ
- หา podcast ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับสิ่งที่คุณรัก
แค่นั้นเอง เพียงแค่ทำสิ่งเล็กๆ หนึ่งอย่างในวันนี้
แล้วพรุ่งนี้ ทำสิ่งเล็กๆ อีกอย่างหนึ่ง
แล้ววันถัดไป
นั่นคือวิธีที่คุณจะพูดภาษาอังกฤษได้คล่อง
คำสุดท้าย: คุณทำได้

การเรียนภาษาอังกฤษไม่ใช่เรื่องมหัศจรรย์ คุณไม่ได้แก่เกินไป ยุ่งเกินไป หรือแย่เกินไปในด้านภาษา
ทุกคนที่พูดภาษาอังกฤษได้คล่องในตอนนี้ เคยเป็นผู้เริ่มต้นเหมือนคุณมาก่อน พวกเขารู้สึกกลัว ทำผิดพลาด และสับสน
ความแตกต่างเพียงอย่างเดียว? พวกเขาไม่ยอมแพ้
คุณไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ คุณไม่จำเป็นต้องเรียนเป็นชั่วโมง คุณเพียงแค่ต้อง:
- ฝึกฝนเล็กน้อยทุกวัน
- ใช้ภาษาอังกฤษจริง (ไม่ใช่แค่หนังสือเรียน)
- พูดแม้จะกลัว
- เดินหน้าต่อไปแม้จะยาก
ในไม่ช้า คุณจะดูหนังแล้วรู้ว่าคุณเข้าใจมัน คุณจะมีการสนทนาแล้วรู้ว่าคุณไม่ได้แปล คุณจะช่วยใครบางคนเป็นภาษาอังกฤษแล้วรู้ว่าคุณเพิ่ง…ทำมัน
และคุณจะคิดว่า: “ว้าว ฉันเรียนภาษาอังกฤษจริงๆ แล้ว”
เริ่มวันนี้ อนาคตของคุณจะขอบคุณคุณ 🚀


